ปัจจุบันในการพัฒนาซอฟแวร์ มี Service หรือบริการพื้นฐานให้เราเลือกใช้มากมาย แบ่งเป็นหลายระดับ (Iaas, PaaS, Saas), หลายราคา แต่มีอยู่บริการหนึ่งชื่อว่า Heroku จากบริษัท Saleforce ที่มีแนวคิดไม่เหมือนใคร คือ ค่อนข้าง Developer-friendly เหมาะแก่การนำมาใช้พัฒนาซอฟแวร์ต้นแบบ MVP ไปจนถึง Scale รองรับผู้ใช้หลายล้านคน
Heroku คืออะไร
Heroku คือ Cloud Platform ที่ให้เราสร้าง App ได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดการ Infrastructure ต่าง ๆ ทำให้เรามารถโฟกัสเฉพาะการ Build, Deploy, Monitor App รวมไปถึง Scale App ในกรณีที่มีผู้ใช้เพิ่มมากขึ้น
สถิติการใช้งาน Heroku
- 26+ Billion Requests ต่อวัน
- 9+ Million Apps Created
- 175+ Add-on Services
- 2+ Million Managed Data Stores
Heroku คือ Platform as a Service (Paas) ที่ Based-on ระบบ Managed Container System คล้ายกับ Docker เป็นแกนกลาง เรียกว่า Dyno รายล้อมด้วย Data Service ที่หลากหลาย และบริการอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ใช้ในการให้บริการ App สมัยใหม่
ข้อดีของ Heroku
ด้วยแนวคิดของ Heroku ที่ต้องการเพิ่ม Productivity ของนักพัฒนา จึงออกแบบระบบให้ใช้ร่วมกับ Developer Tools และ Workflow สมัยใหม่ ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงการทำงาน เพิ่มงานที่ไม่จำเป็น
จากที่เริ่มต้น Heroku รองรับแต่ภาษา Ruby ปัจจุบัน Heroku รองรับ Buildpack ภาษายอดนิยมต่าง ๆ ดังนี้
- Node.js
- Ruby
- Python
- Java
- PHP
- Go
- Scala
- Clojure
เราสามารถเลือก Plan ได้อย่างยืดหยุ่น เริ่มตั้งแต่ Free Plan ที่สามารถใช้พัฒนา App เล็ก ๆ ไปจนถึง Enterprise
สมัครใช้งาน Heroku
1. เข้าไปที่ www.heroku.com กดปุ่ม Sign up สีม่วง ด้านขวาบน
2. กรอกข้อมูลให้เรียบร้อย แล้วกดปุ่ม CREATE FREE ACCOUNT สีฟ้า
3. ระบบจะแสดงข้อความว่า ให้เช็คอีเมล์ เพื่อยืนยัน account
4. เปิดอีเมล์ แล้วคลิกที่ Link เพื่อ Activate Account ถ้าไม่เจออีเมล์ให้เช็คใน Spam
5. ระบบจะให้เรากำหนด Password เสร็จแล้ว กดปุ่ม SET PASSWORD AND LOG IN สีฟ้า
6. ระบบแสดงข้อความ ยืนยัน สร้าง Account สำเร็จ กดปุ่ม CLICK HERE TO PROCEED สีฟ้า เพื่อดำเนินการต่อ
7. ระบบ Heroku จะแสดงหน้าจอ Dashboard ที่ยังไม่มี app ใด ๆ
8. สำเร็จแล้ว เสร็จสิ้นขั้นตอนการสมัครใช้งาน Heroku
ใน ep หน้าเราจะเริ่มสร้าง App แล้ว Deploy ให้ User เรียกใช้งานจริง จาก Internet